otopthaishop

ชามตราไก่ ลำปาง วาดเป็นรูปไก่มีขนคอและลำตัวสีส้ม

ชามตราไก่ ลำปาง

รู้จักชามตราไก่ ผ่านพิพิธภัณฑ์เซรามิกธนบดี

ชามตราไก่ ลำปาง อยู่คู่กับครัวไทยมาช้านาน แต่ปัจจุบัน รูปร่างหน้าตาของถ้วยชามแม้จะเปลี่ยนไปไม่มากนัก แต่ลวดลายของจานและชามเปลี่ยนไปตามสมัยนิยม เมื่อก่อน ชามตราไก่ ถือเป็นภาชนะหรูบนโต๊ะอาหาร แต่ปัจจุบัน เขาหาว่าเชย จนมาถึงยุคโหยหาอดีตนี่แหละ ที่ทำให้ผู้คนสนใจเครื่องใช้สมัยเก่าขึ้นมาอีกครั้ง ชามตราไก่ ถือเป็นต้นตำรับของถ้วยชามสมัยนี้ก็ว่าได้ แหล่งผลิตสำคัญอยู่ที่ จ.ลำปาง เนื่องจากมี “ดินขาว” หรือ “เกาลิน” คือดินที่มีสีขาวหรือสีซีจาง ทั้งในสภาพที่ยังไม่ได้เผาและเผาแล้ว คำว่า เกาลิน มาจากภาษาจีนหมายถึงภูเขาสูงที่เป็นแหล่งเกิดดินขาวในประเทศจีน ดินขาวลำปางมีแหล่งสำคัญอยู่ที่ อ.แจ้ห่ม เป็นดินที่เกิดจากการสลายตัวของหินฟันม้า ซึ่งสามารถนำมาทำเนื้อเซรามิกได้ทันทีโดยไม่ต้องเติมวัตถุดิบอื่นลงไปอีก ผู้เชี่ยวชาญวิเคราะห์ออกมาว่า ดินขาวลำปางอยู่ในตระกูลเดียวกับหินโทเซกิ ของญี่ปุ่น ในกลุ่มอุตสาหกรรมเซารามิกเรียกกันว่า ไชน่า สโตน เมื่อเผาที่อุณหภูมิสูงภถึง 1,300 องศาเซลเซียส จะได้เนื้อผลิตภัณฑ์พอร์ซเลนสีขาว แกร่ง ทนไฟสูง เหมาะแก่การทำถ้วยชามต่างๆ คนค้นพบดินขาว ที่นำมาทำถ้วยชาม ก็คือ อาปาอี้ (ซิมหยู) แซ่ฉิน ซึ่งอพยพหนีความยากจนจากจีนมา ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1 โดยไปอยู่กับพี่ชายที่เวียดนาม ก่อนจะอพยพมาอยู่ที่ธนบุรี ในปี 2490 อยู่ได้ 3 ปี ก็ย้ายตามเพื่อนขึ้นมาทำสวนผักอยู่เชียงใหม่ ด้วยความที่ที่บ้านเกิดในมณฑลกวางตุ้งก็ทำเซรามิกและทำไร่อยู่แล้ว พอไปเห็นหินลับมีดที่ชาวบ้านนำมาขาย ก็ดูออกว่าเป็นแร่ดินขาว สอบถามคนที่นำมาขายถึงได้รู้ว่ามาจาก อ.แจ้ห่ม จ.ลำปาง

ชามตราไก่ ลำปาง วาดเป็นรูปไก่มีขนคอและลำตัวสีส้ม

ชามตราไก่ ลำปาง โดยวาดเป็นรูปไก่มีขนคอและลำตัวสีส้ม หางและขาสีดำ เดินอยู่บนหญ้าสีเขียว มีดอกเบญจมาศสีชมพูอมม่วง ใบสีเขียวตัดเส้นด้วยสีดำอยู่ด้านซ้าย มีต้นกล้วย 1 ต้น สีเขียวตัดเส้นด้วยสีดำอยู่ด้านขวา บางใบจะมีค้างคาวห้อยหัวอยู่ฝั่งตรงข้ามกับไก่ มีดอกไม้ใบไม้เล็กๆ แต้มก้นชามด้านในเป็นรูปดอกจิก ได้รู้เรื่องราวของชามตราไก่กันไปแล้ว คราวนี้มาดูของพิเศษในพิพิธภัณฑ์เซรามิคธนบดีกันบ้าง ที่นี่มีชามไก่ที่เล็กที่สุดในโลก โดยเล็กกว่าเมล็ดข้าวเปลือกเสียอีก ชามไก่นี้เก็บรักษาไว้ในตู้กระจกทรงสามเหลี่ยม หากอยากเห็นชัดๆ ต้องมองผ่านกระจกขยายจึงจะเห็นลวดลายของตัวไก่ ไม่เพียงเท่านั้น ยังมีชามไก่ทองคำ ที่ทำด้วยทองคำแท้ 100% ด้านในชามเป็นทองคำเงางาม ส่วนด้านนอกใช้น้ำทองวาดเป็นไก่ทองคำบนพื้นสีขาว กลายเป็นชามตราไก่งดงามเลอค่า มีให้ชมที่นี่ที่เดียว เตามังกร เตาเผาโบราณภายในพิพิธภัณฑ์ เลือกซื้อสินค้าจากโรงงานเซรามิคธนบดี ระหว่างเดินชมพิพิธภัณฑ์ เราจะได้เห็นพนักงานในโรงงานกำลังนั่งทำงานผลิตเครื่องปั้นดินเผาด้วยวิธีแบบโบราณไปพร้อมๆ กัน ตั้งแต่การนำดินที่นวดแล้วมาวางในพิมพ์ แล้วใช้มือหมุนแป้นวงล้อเพื่อขึ้นรูป ตกแต่งและตัดขอบชามส่วนเกิน และอีกหลายขั้นตอนกว่าจะออกมาเป็นชามหนึ่งใบพร้อมเข้าเตาเผา อีกทั้งยังมีการสาธิตการปั้นชามไก่แบบปัจจุบันที่ใช้เครื่องจักรมาช่วยทุ่นแรง

ชมเตามังกรและชมการวาดลวดลายไก่แต่ละตัวลงบนถ้วยชาม

นอกจากนั้น ชามตราไก่ ลำปาง ก็ยังจะได้ชมการวาดลวดลายไก่แต่ละตัวลงบนถ้วยชามอีกด้วยและที่สำคัญ ยังจะได้ชมเตามังกรเตาเผาถ้วยชามเซรามิคแบบโบราณที่อาปาอี้สร้างขึ้นเองตั้งแต่ปี 2508 โดยใช้ประสบการณ์และความรู้ในการสร้างเตาเผาและการทำเซรามิคมาจากประเทศจีน เตาโบราณนี้มีอยู่ 2 เตาด้วยกัน ทำขึ้นจากดินจอมปลวก เผาชามไก่ได้ถึง 5,000-8,000 ใบต่อเตาเลยทีเดียว แต่ปัจจุบันไม่ได้ใช้งานแล้ว และกำลังขอขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานจากกรมศิลปากร เนื่องจากเป็นเตาเผาโบราณที่เก่าแก่ที่สุดในจังหวัดลำปาง ที่พิพิธภัณฑ์เซรามิคธนบดีนี้จึงนับว่าเป็นแหล่งท่องเที่ยวเรียนรู้เรื่องเกี่ยวกับชามตราไก่ และถ้วยชามเซรามิคของลำปางได้เป็นอย่างดี ถ้าใครมีโอกาสมาเยือนลำปาง ขอแนะนำว่าต้องห้ามพลาดมาลองชมกัน เลือกซื้อของฝากของที่ระลึกจากโรงงาน อย่าลืมมาชิมก๋วยเตี๋ยวในชามตราไก่ใบยักษ์ที่พิพิธภัณฑ์เซรามิคธนบดีตั้งอยู่ที่ ถนนวัดจองคำ ตำบลพระบาท อำเภอเมือง จังหวัดลำปาง เปิดบริการวันอังคาร-อาทิตย์ (หยุดวันจันทร์) เวลารอบเช้า 09.00-12.00 น.และ รอบบ่าย 13.00-17.00 น. ส่วนร้านค้าศูนย์จำหน่ายเซรามิคเปิดทุกวัน ค่าเข้าชม นักเรียนนักศึกษาบัตรราคา 30 บาท (ได้คูปองเป็นส่วนลด20 จากยอดซื้อสินค้า  200 บาท) คนไทยบัตรราคา 60  บาท (ได้คูปองส่วนลด 50 บาทจากยอดซื้อสินค้า 500 บาท) และชาวต่างชาติบัตรราคา 100 บาท (ได้คูปองเป็นส่วนลด 100 บาทจากยอดซื้อสินค้า1,000 บาท) นักบวชทุกศาสนา, เด็กอายุไม่เกิน 12 ปี, ผู้สูงอายุ 60 ปี คนพิการเข้าฟรี สำหรับบัตรราคา 60 บาท และ 100 บาท

ชามตราไก่ ลำปาง ตามหาแหล่งแร่ดินขาวขายดีมากๆ

อาปาอี้ จึงปั่นจักรยานคู่ใจไปตามหาแหล่งแร่ดินขาว พบที่ บ้านปางค่า อ.แจ้ห่ม จากนั้นได้จ้างเกวียนบรรทุกแร่ดินขาวออกมา แล้วนำขึ้นรถไฟกลับมาบ้าน ทดลองปั้นถ้วยชาม ปรากฏว่าดินที่ได้มาเป็นเนื้อดินขาวคุณภาพดี เผาที่อุณหภูมิสูงไม่มาก เหมาะสำหรับการปั้นถ้วยชาม ต่อมาก็ได้ชักชวนเพื่อนชาวจีนก่อตั้งโรงงานเครื่องปั้นดินเผาแห่งแรกขึ้นที่จ.ลำปาง คือ โรงงานร่วมสามัคคี เมื่อปี 2500 ช่วงที่ผลิตชามไก่ช่วงแรกๆ ซึ่งไม่ได้มีเครื่องจักรอะไร ทุกอย่างต้องใช้แรงคนหมด รวมถึงใช้เตาเผามังกร เป็นเตาเผาแบบยาว ซึ่งเผาชามไก่ได้ถึง 5,000-8,000 ใบต่อเตาและเผาถ้วยขนมและถ้วยตะไลได้ถึง 2 หมื่นใบต่อเตา แม้โรงงานร่วมสามัคคีจะเลิกกิจการไป แต่งานเครื่องปั้นดินเผาของอาปาอี้ สืบทอดสู่ทายาทรุ่นที่ 2 ภายใต้ชื่อโรงงานธนบดีสกุล ยุคนั้นชามไก่ขายดีมากๆ ส่วนใหญ่ขนาด 5-6 นิ้ว จะใช้กันตามบ้านหรือขึ้นโต๊ะข้าวต้มผู้ดี ส่วนชามไซส์ใหญ่ขึ้น คือ 7-8 นิ้ว มักจะเป็นชามที่พวกใช้แรงงานนิยมใช้เพราะกินจุ แต่มาถึงสมัยนี้ รูปแบบของถ้วยชาม ตลอดจนลวดลายมีการพัฒนาไปมาก มีมากมายหลายขนาด รวมถึงการใช้เครื่องจักรเข้ามาช่วยผลิตถ้วยชาม นอกจากผลิตเพื่อเป็นภาชนะในครัวเรือนแล้ว ยังใช้เป็นเครื่องประดับตกแต่ง ไปจนถึงของสะสมได้อีกด้วย

ถ้วยตราไก่ ลำปางชามตราไก่ ลำปางจำหน่ายสินค้า OTOPจำหน่ายสินค้า OTOP ทั่วประเทศจำหน่ายสินค้า OTOP ของดีทุกจังหวัดยุคแห่งการนำเสนอและขายของออนไลน์สินค้าภูมิปัญญาชาวบ้านสินค้าพื้นบ้านอาหารพื้นบ้านเกษตรกร 100%ร้านค้ารวมสินค้า OTOP จากทุกจังหวัดตัวแทนสินค้ามาส่งถึงมือท่านOTOP ขอนแก่นOTOP ชัยภูมิOTOP ร้อยเอ็ดOTOP กาฬสินธุ์ให้บริการฝาก-ขาย สินค้า OTOPจำหน่ายสินค้าพื้นบ้านประจำจังหวัดของฝาก ของที่ระลึกอาหารแห้ง อาหารสด

ชามตราไก่ ลำปาง